โรงเรียนเทระโกยะและการศึกษาเกี่ยวกับการเขียนในยุคเอโดะ: วัฒนธรรมตัวอักษรที่หยั่งรากในหมู่ชนชั้นสามัญและการสร้างบุคลิกภาพ

Sponsored links

เทระโกยะคืออะไร? ศูนย์กลางการศึกษาของประชาชน

ในยุคเอโดะของญี่ปุ่น “เทระโกยะ” เป็นสถานศึกษาที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป แม้ชื่อจะมีคำว่า “เทระ” (แปลว่า วัด) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตั้งอยู่ในวัดเสมอไป บ้านเรือนหรือห้องในตึกแถวก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเรียนได้

แตกต่างจากโรงเรียนในระบบศักดินาที่จัดไว้สำหรับบุตรหลานของซามูไร เทระโกยะมุ่งสอนเด็กของชาวเมือง ชาวนา และช่างฝีมือ เป้าหมายหลักคือการถ่ายทอดความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน โดยมีการอ่าน การเขียน และคณิตศาสตร์ (ที่รู้จักกันว่า “สามทักษะหลัก”) เป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเขียนตัวอักษร” ซึ่งได้รับความสำคัญอย่างสูง

ศิลปะแห่งการเขียน: ความสามารถเชิงปฏิบัติและสัญลักษณ์ของความสง่างาม

การเรียนการเขียนในเทระโกยะไม่ได้จบแค่การเขียนให้ถูกต้อง ตัวอักษรที่อ่านง่ายและสวยงามถือเป็นภาพสะท้อนของบุคลิกภาพและการอบรมสั่งสอนที่ดี

ตัวอักษรไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการทำบัญชี เขียนจดหมาย หรือเอกสารราชการเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงมารยาทและความมีการศึกษาด้วย เด็ก ๆ จะฝึกเขียนโดยลอกแบบ “ต้นฉบับ” ที่ครูให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยพู่กันและหมึก พร้อมฝึกการนั่งท่าที่เหมาะสม การจับพู่กัน และการรักษาจิตใจให้สงบ

จากบันทึกการฝึกเขียนในยุคนั้น เห็นได้ว่าการเรียนเขียนช่วยปลูกฝังคุณลักษณะสำคัญ เช่น สมาธิ ความอดทน ความรอบคอบ และความรักสะอาด

สื่อการเรียนรู้: “โอไรโมโนะ” กับบทเรียนแบบบูรณาการ

หนังสือเรียนหลักในเทระโกยะคือชุด “โอไรโมโนะ” ซึ่งเป็นตัวอย่างของจดหมาย บทสนทนาเกี่ยวกับการค้า ประเพณีตลอดปี และคำสอนด้านคุณธรรม เอกสารเหล่านี้เป็นสื่อที่สอนการอ่าน การเขียน และมารยาทควบคู่กันอย่างลงตัว

ตัวอย่างโอไรโมโนะที่ใช้ เช่น:

  • “บทเรียนเทระโกยะ”: ข้อความที่มีเนื้อหาคุณธรรมแบบลัทธิขงจื๊อ
  • “การโต้ตอบทางจดหมาย”: ตัวอย่างการเขียนจดหมายอย่างเหมาะสม
  • “ธุรกิจและการค้า”: รูปแบบการเขียนเกี่ยวกับการค้าขาย

การคัดลอกเอกสารเหล่านี้ทำให้เด็กเรียนรู้หลักไวยากรณ์ สำนวน ภาษา และลายพู่กันอย่างเป็นระบบ เรียกได้ว่า “เรียนรู้จิตใจผ่านการเคลื่อนไหวของมือ”

การเขียนกับการสร้างบุคลิกภาพ: “ลายมือคือตัวตน”

หัวใจของการศึกษาผ่านเทระโกยะคือแนวคิดที่ว่า การเขียนสามารถสร้างและสะท้อนบุคลิกภาพได้ คำกล่าวที่ว่า “ลายมือคือตัวตน” แสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นเชื่อว่าลายมือสามารถบ่งบอกนิสัยและจิตใจของผู้เขียน

ครูไม่ได้สอนเพียงแค่รูปร่างของตัวอักษร แต่ยังสอนท่านั่ง การแสดงความเคารพ และการดูแลอุปกรณ์อย่างพิถีพิถัน แสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตและการเขียนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

การเรียนเขียนจึงไม่ใช่แค่ทักษะ แต่เป็นการฝึกฝนตนเอง การฝึกจิตใจ และการฝึกมารยาท

การเขียนกับการสร้างวัฒนธรรมของประชาชน

สังคมญี่ปุ่นในยุคเอโดะมีอัตราการรู้หนังสือที่สูงติดอันดับโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการศึกษาที่หยั่งรากลึกผ่านเทระโกยะ และการที่สังคมให้คุณค่าอย่างสูงต่อศิลปะแห่งการเขียน

การเขียนตัวอักษรไม่ใช่เพียงแค่การมีความรู้ แต่คือการได้เชื่อมโยงกับสังคม เข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม และเป็นเจ้าของเสียงในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจดหมาย แต่งบทกวีญี่ปุ่น หรือทำบัญชีการค้า—การกระทำเหล่านี้สร้างความเป็นเจ้าของทางวัฒนธรรมให้กับประชาชน

จดหมายและบันทึกที่เขียนด้วยพู่กันและหมึก คือเครื่องมือที่ผูกโยงชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ทางสังคม และจิตวิญญาณ ดังนั้น การเรียนการเขียนในเทระโกยะจึงเป็น “อาวุธทางวัฒนธรรม” ของประชาชน

สรุป: “ประชาชนที่มีความรู้” จากปลายพู่กัน

การศึกษาศิลปะการเขียนในเทระโกยะยุคเอโดะ เป็นระบบการศึกษาที่ครอบคลุมความรู้ คุณธรรม มารยาท และวัฒนธรรม การหยิบพู่กันจึงไม่ใช่แค่การเขียนตัวอักษร แต่คือการฝึกตนให้ประพฤติตนอย่างมีศักดิ์ศรี และเตรียมพร้อมที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่น

เมื่อเราศึกษาการเขียนพู่กันในปัจจุบัน เราก็สืบทอดวัฒนธรรมอันยาวนานนี้ ในการเขียนพู่กันเพียงครั้งหนึ่ง มีจิตวิญญาณและความรู้ที่ชาวญี่ปุ่นสามัญชนในยุคเอโดะหวงแหนซ่อนอยู่เสมอ

Comments