โอเซะจิ (おせち料理) เป็นอาหารดั้งเดิมที่ขาดไม่ได้ในช่วงปีใหม่ของญี่ปุ่น อาหารแต่ละจานล้วนมีความหมายแฝงอยู่ และเป็นการอธิษฐานขอพรให้ครอบครัวมีสุขภาพดี ร่ำรวย และมีพืชผลอุดมสมบูรณ์ บทความนี้จะอธิบายโอเซะจิอย่างละเอียด ตั้งแต่ต้นกำเนิดไปจนถึงรูปแบบยุคใหม่
ความหมายและต้นกำเนิดของโอเซะจิ
คำว่า “โอเซะจิ” (御節) เดิมหมายถึงอาหารพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาล “โกเซคคุ” (五節句) ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ม.ค., 3 มี.ค., 5 พ.ค., 7 ก.ค., และ 9 ก.ย. ต่อมาคำนี้ถูกใช้เฉพาะสำหรับอาหารปีใหม่
ประเพณีนี้มีรากฐานมาจากแนวคิด “เซกกุ” ของจีนโบราณ และถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นในยุคนาระและเฮอัน ซึ่งอาหารเหล่านี้ถูกจัดเตรียมเพื่อบูชาเทพเจ้าในพระราชสำนัก ในเวลาต่อมาจึงแพร่หลายไปยังชนชั้นนักรบ พ่อค้า และประชาชนทั่วไปในสมัยเอโดะ
ความหมายของกล่องโอเซะจิ (重箱)
โอเซะจิมักจะจัดใส่ในกล่องซ้อนกันที่เรียกว่า “จูบาโกะ” (重箱) การซ้อนกล่องหมายถึง “การทับซ้อนของความเป็นสิริมงคล” นิยมใช้กล่อง 3 หรือ 4 ชั้น โดยมีการจัดอาหารตามลำดับดังนี้:
- ชั้นที่หนึ่ง (ของเรียกน้ำย่อยและอาหารมงคล): ถั่วดำ (คุโรมาเมะ), ปลาตัวเล็กอบแห้ง (ทะซึคุริ), ไข่ปลาเฮอริ่ง (คาซุโนะโกะ), ไข่ม้วนหวาน (ดาเตะมากิ), มันหวานบดผสมเกาลัด (คุริคินตัน), ลูกชิ้นปลาแดงขาว (คามาโบโกะ)
- ชั้นที่สอง (ของย่าง): ปลากะพงแดงย่างเกลือ, ปลาบุริย่างซอส, กุ้งต้มเคลือบเงา, เนื้อเป็ดรมควัน
- ชั้นที่สาม (ของต้ม): ต้มรวมสไตล์ชิคุเซ็น, เผือก, รากบัว, แครอท, บุก, โกโบ (รากหญ้าชนิดหนึ่ง)
- ชั้นที่สี่ (ของดองและอาหารเย็น): สลัดหัวไชเท้ากับแครอท, หัวผักกาดดองแบบดอกเบญจมาศ, ปลาหมึกดองน้ำส้ม (*คำว่า “ชั้นที่สี่” จะใช้ว่า “โยโนะจู” เพื่อหลีกเลี่ยงคำว่า “สี่” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “ตาย” ในภาษาญี่ปุ่น)
ความหมายของอาหารโอเซะจิยอดนิยม
อาหาร | ความหมาย |
ถั่วดำ (คุโรมาเมะ) | สุขภาพดี ขยันขันแข็ง (“ทำงานขยันหมั่นเพียร”) |
ไข่ปลาเฮอริ่ง (คาซุโนะโกะ) | การมีลูกหลานสืบสกุลมากมาย |
ปลาตัวเล็กอบแห้ง (ทะซึคุริ) | พืชผลอุดมสมบูรณ์ |
ไข่ม้วนหวาน (ดาเตะมากิ) | ความสำเร็จในการเรียนและสติปัญญา |
คุริคินตัน | โชคลาภทางการเงิน |
คอมบุ (สาหร่ายพันปลา) | พ้องเสียงกับคำว่า “ยินดี” (โยะโระโคบุ) |
กุ้ง | อายุยืน (“จนหลังโก่ง”) |
รากบัว | มองเห็นอนาคตได้แจ่มชัด |
โกโบ | ความมั่นคงของครอบครัว รากฐานมั่นคง |
ความแตกต่างของโอเซะจิตามภูมิภาค
โอเซะจิมีความแตกต่างกันมากในแต่ละภูมิภาค เช่น:
- คันโต: รสชาติเข้มข้น ใช้ซอสถั่วเหลืองและน้ำตาล นิยมกินคามาโบโกะและคุริคินตัน และใช้โมจิทรงเหลี่ยมปิ้ง
- คันไซ: รสชาติอ่อนละมุน ใช้โชยุสีอ่อน นิยมกินโมจิทรงกลมต้มกับซุปมิโสะขาว
- ฮอกไกโดและโทโฮคุ: เน้นอาหารทะเล เช่น อิคุระ แซลมอน คอมบุ
- คิวชู: รสชาติหวานมาก ใช้น้ำตาลทรายแดงและผักท้องถิ่นเช่น “คัตสึโอะนา”
- โอกินาวา: เพิ่งเริ่มนิยมโอเซะจิไม่นาน มักฉลองปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ
อาหารอื่นที่นิยมกินช่วงปีใหม่
โอโซนิ (ซุปโมจิ)
ซุปโอโซนิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปีใหม่ โดยสูตรแตกต่างกันตามภูมิภาค:
ภูมิภาค | น้ำซุป | รูปทรงโมจิ |
คันโต | ซุปใสรสโชยุ | โมจิเหลี่ยม ปิ้ง |
คันไซ | ซุปมิโสะขาว | โมจิกลม ต้ม |
คิวชู | ซุปปลาอาโกะ (ปลาบิน) | โมจิกลม ไม่ปิ้ง |
โอโทะโซะ (เหล้าสมุนไพร)
เหล้าญี่ปุ่นที่แช่สมุนไพร ใช้ดื่มในวันปีใหม่เพื่อขอพรให้สุขภาพดี โดยจะดื่มร่วมกันในครอบครัว
โอเซะจิยุคใหม่: หลากหลายและสะดวกสบาย
ในยุคปัจจุบันโอเซะจิมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น:
- เซ็ตโอเซะจิแช่แข็งจากห้างหรือออนไลน์
- โอเซะจิสไตล์ตะวันตก จีน หรือมังสวิรัติ
- โอเซะจิสำหรับเด็กที่มีลวดลายตัวการ์ตูน
- โอเซะจิขนาดเล็กสำหรับคนโสด
หลายครอบครัวยังคงทำโอเซะจิเองแบบดั้งเดิม ถ่ายทอดรสชาติจากยายสู่แม่ สู่ลูก แต่ในยุคเร่งรีบ การเลือกซื้อโอเซะจิสำเร็จรูปก็เป็นที่นิยมมากขึ้น
สรุป
โอเซะจิไม่ใช่แค่อาหารฉลองปีใหม่ แต่เป็นภาพสะท้อนของวัฒนธรรมจิตวิญญาณญี่ปุ่น ความรู้สึกตามฤดูกาล และสายสัมพันธ์ของครอบครัว การล้อมวงกินโอเซะจิในวันปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน
การเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในแต่ละเมนู จะทำให้เราเห็นคุณค่าและความลึกซึ้งของธรรมเนียมนี้มากยิ่งขึ้น เริ่มต้นปีใหม่อย่างเปี่ยมสุข ด้วยโอเซะจิที่เต็มไปด้วยความหมายทั้งในใจและบนโต๊ะอาหาร
Comments