การเขียนพู่กันคือศิลป์ที่สะท้อนจักรวาลและปรัชญา
บทนำ: “การเขียน” คือปรัชญาก่อนที่จะเป็นศิลปะ
เมื่อพูดถึงการเขียนพู่กัน หลายคนมักจะนึกถึงศิลปะด้านความสวยงามและเทคนิคการใช้พู่กัน แต่แท้จริงแล้ว แก่นแท้ของการเขียนพู่กันคือ “การถ่ายทอดความคิดและระเบียบของจักรวาลผ่านตัวอักษร”
คัมภีร์จีนโบราณ 2 เล่มสำคัญ ได้แก่ “ซูจิง (書経)” และ “อี้จิง (易経)” เป็นรากฐานทางปรัชญาที่มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อการกำเนิดและความหมายของการเขียนพู่กัน ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ยังคงส่งอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน
บทความนี้จะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างคัมภีร์ทั้งสองกับการเขียนพู่กัน ผ่านมุมมองด้านจริยธรรม ปรัชญา จักรวาลวิทยา สัญลักษณ์ และความงามทางรูปทรง
ซูจิง: การเขียนคือเครื่องมือของการปกครองและกระจกสะท้อนคุณธรรม
การเขียนคือหัวใจของการปกครอง
ซูจิง หรือ ซ่างชู (尚書) เป็นหนึ่งในคัมภีร์ห้าของขงจื๊อ เป็นบันทึกถ้อยคำของกษัตริย์และขุนนางจีนโบราณ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตัวอักษรเป็นสื่อกลางระหว่างการปกครองกับระเบียบศีลธรรม
ในแนวคิดของขงจื๊อที่เน้น “การปกครองด้วยคุณธรรม” การเขียนจึงถือเป็นการแสดงภาพของคุณธรรม ตัวอักษรที่เขียนอย่างถูกต้องและงดงาม สะท้อนจิตใจและบุคลิกของผู้เขียนโดยตรง
การเขียนคือภาพของหัวใจ หากจิตใจตรง การเขียนก็ตรงเช่นกัน
ซุน กั๋วถิง, คัมภีร์ “ชูผู่”
กล่าวคือ การเขียนพู่กันไม่ใช่แค่ศิลปะภายนอก แต่คือ “ภาพจิตใจ” ที่วาดด้วยพู่กัน
รูปแบบตัวอักษรสอดคล้องกับศีลธรรม
รูปแบบของตัวอักษรจีนในอดีต เช่น 篆書 (สไตล์ซีล), 隷書 (สไตล์เสมียน), 楷書 (สไตล์สแควร์) ล้วนพัฒนาไปพร้อมกับโครงสร้างทางสังคมและจริยธรรม
- 篆書 (ยุคราชวงศ์ฉิน): สื่อถึงระเบียบแบบแผนแห่งเอกภาพ
- 隷書 (ยุคราชวงศ์ฮั่น): สะท้อนประสิทธิภาพของระบบข้าราชการ
- 楷書 (ยุคเว่ย-จิ้น): ถ่ายทอดความถูกต้องทางศีลธรรมอย่างชัดเจน
แนวโน้มนี้สะท้อนแนวคิดหลักของ “ซูจิง” คือ “ตัวอักษรคือตัวแทนของคุณธรรมและระบบระเบียบ”
อี้จิง: จังหวะแห่งหยิน-หยางในพู่กัน
อี้จิงคือปรัชญาแห่งการเปลี่ยนแปลง
อี้จิง หรือ “คัมภีร์แห่งการเปลี่ยนแปลง” อธิบายว่าทุกสิ่งในจักรวาลเกิดจากการโต้ตอบระหว่างหยินและหยาง ซึ่งปรากฏในรูปของเส้นประ “―” และเส้นขาด “–” ที่ประกอบกันเป็นแปดขวาและหกสิบสี่ขวา
แนวคิดสำคัญคือ “เพียงเส้นเดียวก็ซ่อนหลักการแห่งจักรวาล” เช่นเดียวกับการเขียนพู่กันที่เส้นแต่ละเส้นถือเป็นพลังแห่งจักรวาลที่ถูกวาดออกมา
การเขียนพู่กัน = ความเคลื่อนไหวภายในความนิ่ง
การเคลื่อนไหวของพู่กันสะท้อนหลักหยินหยาง ดังนี้:
การเคลื่อนไหวของพู่กัน | สอดคล้องกับอี้จิง | ความหมาย |
จุดเริ่มต้นของเส้น | การเริ่มต้นของหยาง | พลังแห่งฟ้า |
จุดจบของเส้น | การสลายตัวของหยิน | พลังแห่งดิน |
ความหนักเบาของเส้น | การสลับของหยิน-หยาง | ความเปลี่ยนแปลง |
นี่คือเหตุผลที่การเขียนพู่กันหนึ่งขีด จึงเต็มไปด้วย “นิ่งและเคลื่อนไหว แข็งและอ่อน ว่างและเต็ม”
แปดวิธีแห่งตัว “ยง” คือการสะท้อนแปดขวา
“永字八法” (แปดเทคนิคของอักษร 永) เป็นการรวบรวมเทคนิคพู่กันพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างแปดขวาของอี้จิง
- 策・努: พลังดันของหยาง
- 掠・啄: แรงปัดของหยิน
- 趯・勒: การประสานของแข็งและอ่อน
- 啄・磔: สัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง
จึงกล่าวได้ว่า “การเขียน” คือศิลปะแห่งสัญลักษณ์ที่ถ่ายทอดจักรวาลด้วยเส้น
ตัวอักษรคือ “รูป” ที่สื่อความหมาย
ทฤษฎีหกประเภทของตัวอักษรจีน
ใน “六書” (รูป, ชี้, ผสม, เสียง, แปร, ยืม) นั้น “象形” (รูปภาพ) และ “会意” (ผสมความหมาย) คือหัวใจของการเขียนพู่กัน
- 山 (ภูเขา): สื่อถึงความมั่นคง
- 日 (พระอาทิตย์): สื่อถึงพลังหยางและชีวิต
- 心 (หัวใจ): สื่อถึงอารมณ์และจิตใจ
การเขียนพู่กันคือการนำสัญลักษณ์เหล่านี้มาสร้างใหม่ผ่านจิตวิญญาณและพู่กัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเต๋า:
“ตัวอักษรคือลักษณ์ ลักษณ์คือหลักการ หลักการคือเต๋า”
การเขียนคือการหลอมรวมกับจักรวาล
การเขียน = การปรับจังหวะกับจักรวาล
ในปรัชญาจีนมีแนวคิด “天人合一” (ฟ้ากับมนุษย์เป็นหนึ่งเดียว) กล่าวว่าการกระทำของมนุษย์สะท้อนกฎของจักรวาล การเขียนพู่กันก็เช่นกัน:
- เฉดสีของหมึก = สมดุลของน้ำและไฟ
- แรงกดของพู่กัน = ความรู้สึกภายในและสภาพอากาศ
- พื้นที่ว่าง = แนวคิดแห่ง “ความว่างเปล่า”
ดังนั้น การเขียนจึงเป็นพิธีกรรมแห่งการประสานลมหายใจกับจักรวาล
ปัญญาของซูจิง・อี้จิงในยุคดิจิทัล
ในยุคที่ทุกอย่างกลายเป็นการพิมพ์ ตัวอักษรไม่ได้ถูก “เขียน” อีกต่อไป
แต่การถือพู่กันและเขียนแต่ละตัวอย่างตั้งใจ จะทำให้เรา:
- หันกลับมาสำรวจตนเอง
- เชื่อมโยงกับจักรวาล
- สะท้อนจิตใจของเราออกมา
นี่คือคุณค่าของการเขียนในฐานะ “การฝึกจิต” สมัยใหม่
สรุป: อักษรหนึ่งตัว บรรจุจักรวาล
- ซูจิง: ถ่ายทอดเส้นทางแห่งคุณธรรมผ่านตัวอักษร
- อี้จิง: เปิดเผยโครงสร้างของจักรวาลผ่านเส้น
- การเขียนพู่กัน: หลอมรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน ถ่ายทอดจิตใจและเต๋าผ่านเส้นแต่ละขีด
อักษรที่คุณเขียนในวันนี้ อาจมีพลังแห่งปรัชญาและจักรวาลกว่า 3,000 ปีแฝงอยู่ก็เป็นได้
Comments