บทกวีและพู่กัน: การเลือกพู่กันในฐานะของใช้ที่รักของนักปราชญ์

พู่กันไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสำหรับเขียนบทกวีเท่านั้น แต่ยังเป็น “ภาชนะของจิตใจ” ที่รองรับวิญญาณของกวีอีกด้วย

ในวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกที่บทกวีและการเขียนพู่กันหลอมรวมเป็นหนึ่ง นักปราชญ์มีความรักและความไว้วางใจอย่างลึกซึ้งต่อพู่กัน และเลือกใช้พู่กันที่เหมาะสมกับอารมณ์และปรัชญาของตนอย่างพิถีพิถัน

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจว่าเหล่ากวีและนักเขียนพู่กันเลือกพู่กันอย่างไร และพวกเขาเห็นความหมายใดในพู่กันเหล่านั้น ผ่านบันทึก บทกวี และเกร็ดเล่าที่หลงเหลืออยู่ในประวัติศาสตร์

พู่กันคือกระจกสะท้อน “หัวใจกวี”

พู่กันไม่ใช่เพียงเครื่องมือธรรมดา แต่มันคือสัญลักษณ์ของความรู้ คุณธรรม และความรู้สึกทางกวีของนักปราชญ์

กวีชื่อดังในยุคถัง “ไป่จวีอี้” นิยมใช้พู่กันที่ทำจากขนกระต่ายสีม่วง (紫毫筆) ซึ่งมีชื่อเสียงจากเมืองเซวียนเฉิง เขาได้กล่าวไว้ว่า:

พู่กันขนม่วง ปลายคมดั่งเหล็กแหลม คมยิ่งกว่ามีด

ในบทกวี 『紫毫筆詞』

สำหรับไป่จวีอี้ ความคมของพู่กันคือภาพสะท้อนของอุดมคติในงานกวีของเขา ทั้งในด้านของถ้อยคำที่คมชัดและความยุติธรรม

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าคุณภาพของพู่กันสะท้อนถึงบุคลิกของผู้ใช้ การเลือกพู่กันจึงเปรียบได้กับการเปิดเผยท่าทีในใจของตนเอง

เขียนบทกวีลงบนใบไม้: ทิวทัศน์ของตู้ฝูและพู่กัน

ในบทกวีของกวีผู้ยิ่งใหญ่ ตู้ฝู เรามักพบภาพของเขากับพู่กันท่ามกลางธรรมชาติ บทกวีตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า:

落日平臺上
春風啜茗時
石欄斜點筆
桐葉坐題詩

ณ ยามอาทิตย์อัสดงบนลานระเบียง
สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านขณะจิบชา
พู่กันวางเอียงอยู่ริมรั้วหิน
นั่งจารบทกวีลงบนใบต้นปอลอว์เนีย

ตู้ฟู่ (杜甫)

บทกวีนี้แสดงให้เห็นว่า นักปราชญ์ในสมัยโบราณใช้พู่กันจดความงามของธรรมชาติ ไม่เพียงแค่บนกระดาษเท่านั้น แต่บนใบไม้ หิน พัด หรือแม้แต่ประตูโชจิ

พู่กันคือเครื่องมือในการหยุดเวลาและสื่อสารกับธรรมชาติ

ความบ้าคลั่งและพู่กัน: การแสดงออกที่ไร้กรอบของจางซวี่

บางครั้งกวีและนักเขียนพู่กันก็ไปไกลเกินกว่าการใช้พู่กันธรรมดา
จางซวี่ นักเขียนพู่กันในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นที่รู้จักจากตำนานที่ว่า เขาเมามากจนใช้น้ำหมึกจุ่มผมของตัวเองแทนพู่กันในการเขียน
นี่คือการแสดงออกในระดับที่ร่างกาย อารมณ์ และถ้อยคำรวมเป็นหนึ่งเดียว

แม้พู่กันจะเป็นเครื่องมือหลักในการเขียนบทกวี แต่แรงผลักดันในการถ่ายทอดความรู้สึกสามารถทะลุข้ามข้อจำกัดของมันได้

การเลือกพู่กันคือการเลือกวิธีแสดงออก

แม้พระสงฆ์ “คูไค” เคยกล่าวว่า “ช่างฝีมือไม่เลือกพู่กัน” แต่ในความเป็นจริง เขาใช้พู่กันหลากหลายประเภทตามวัตถุประสงค์และขนาดตัวอักษร

นักปราชญ์ให้ความสำคัญกับรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชนิดของขน ความยาวของด้าม และลักษณะของพู่

  • ขนกระต่าย (紫毫): เรียวและคม เหมาะสำหรับบทกวีที่ต้องการเส้นละเอียด
  • ขนแพะ: ซึมซับหมึกดี ลื่นไหล เหมาะสำหรับ สไตล์การวิ่ง และ สไตล์ตัวเขียน
  • ขนแรคคูน: ยืดหยุ่น แข็งแรง เหมาะกับ สไตล์สแควร์ ที่ทรงพลังในบทกวีจีนโบราณ

การเลือกพู่กันมีผลต่อโทนของบทกวี โลกทัศน์ และลมหายใจของถ้อยคำ เหมือนกับการเลือกเสียงหรือจังหวะในดนตรี

สรุป: พู่กันและบทกวี คือเสาหลักสองต้นของหัวใจนักปราชญ์

สำหรับนักปราชญ์ พู่กันคือ “กระจกสะท้อนจิตใจ” “ตัวเร่งปฏิกิริยาทางอารมณ์” และ “เครื่องมือในการปั้นแต่งวิญญาณ”
มันไม่ใช่แค่เครื่องมือเขียน แต่คือเพื่อนร่วมคิด เป็นสะพานสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ และเป็นประตูสู่แรงบันดาลใจ

สิ่งที่บทกวีและพู่กันมีร่วมกันคือการถ่ายทอด “การเคลื่อนไหวของหัวใจ” ให้เป็นรูปธรรม
เพราะเหตุนี้เอง พู่กันจึงเป็นเครื่องมือที่ส่วนตัวและน่ารักที่สุดสำหรับนักปราชญ์

Comments